วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หุ้นไทยจากนี้ไป ต้องระวังมากๆๆๆ

หากว่าเรามาดู Set ของไทยเรานะครับ ได้มีการพยายามที่จะทำ New High ขึ้นมาได้แต่ไปต่อไม่ไหว เพราะว่ามีแรงเทขายสวนลงมาเป็นระยะๆๆ สาเหตุมีด้วยกัน 3 ประการที่ทำให้ Set ไปต่อไม่ไหว

สาเหตุที่ 1 - โครงสร้างของแท่งเทียน คล้ายกับ Pattern ของ Double Top ครับ

ความรู้สำหรับมือใหม่ - อันนี้ต้องอ่านต้องจำ
โครงสร้าง Double Top หมายถึง โครงสร้างของแท่งเทียนที่จุดมาทำจุดสูงที่ใกล้เคียงกัน ในเวลาที่ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ และจุดสูงใหม่นี้ไม่สามารถทำยอดสูงกว่ายอดสูงเดิมได้เสียที่ ดังนั้นคนที่มีกำไรพอประมาณเกิดมองว่าคงไปไหว ก็จะเริ่มขายทำกำไรออกมา เมื่อมีการขายทำกำไรออกมามาก คนอีกจำนวนหนึ่งก็จะพยายามขายตามออกมา ผลก็ทำให้ราคาเริ่มไหลลงๆๆ ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะมาหยุดอยู่ที่แถวแนวรับก่อนหน้านี้ จนบางคนที่กำไรแต่ทนถือไว้ไม่ขาย ราคาก็ไหลลงมาจนไม่มีกำไร


สาเหตุที่ 2 - มาจากหุ้นไทยหรือ Set มีแนวโน้มว่าจะเกิด Negative Divergence ที่ Rsi และ Macd

ความรู้สำหรับมือใหม่ - อันนี้ต้องอ่านต้องจำ
Divergence หมายถึง การที่แท่งเทียนกับหรือกร๊าฟ เกิดความขัดแย้งกับ Indicator ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มไปจากเดิม เช่นจากแนวโน้มที่กำลัง ลงอยู่จะกลับเป็นขาขึ้น หรือว่าจากหุ้นกำลังขึ้นอยู่จะเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นการลงแทน

ในภาวะปกติการสร้าง Indicator ต่างๆนั้นเป็นการชี้บ่งถึงภาวะหรือแนวโน้มการขึ้นลงที่ควรจะสอดคล้องไปกับกร๊าฟหากกร๊าฟทำยอดสูงใหม่ได้ Indicator ก็ควรจะทำยอดวสูงใหม่สอดคล้องไปตามกร๊าฟ อันนี้ปกติ หรือหากว่าหุ้นกำลังลงและทำ New Low ใหม่ Indicator ก็ควรที่จะทำจุดต่ำสอดคล้องไปกับกร๊าฟ นั่นก็คือ Indicator ก็ควรจะทำจุดต่ำใหม่เตี้ยลงหรือต่ำกว่าจุดต่ำเดิมด้วยเช่นกัน ซึ่งอย่างนี้ไม่มีอะไรที่ผิดปกติครับ

แต่เมื่อไหร่ที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง กร๊าฟกับ Indicator ให้เราต้องไหวตัวให้ทัน เช่น หากว่าหุ้นทำ New Low ใหม่ที่ต่ำกว่าจุดต่ำเดิม สิ่งควรจะเป็นก็คือ Indicator ก็ควรที่จะทำจุดต่ำใหม่เตี้ยลงกว่าเดิม สอดคล้องไปตามกร๊าฟ แต่เมื่อไหร่ที่ Indicator ไม่ทำจุดต่ำใหม่เตี้ยลงกว่าเดิมหรือว่าจุดต่ำใหม่กลับยกตัวสูงกว่าจุดต่ำเดิมก่อนหน้านี้ อันนี้เรียกว่าเกิด Divergence แต่ว่าเป็น Divergence ที่ดีจึงเรียก Divergence
แบบนี้ว่า Positive Divergence  ( ดูรูปที่ 2 กร๊าฟ Dowjones ตรงลูกศรสีฟ้าใหญ๋ ชี้บอกช่วยล่างของกร๊าฟ )

ในทางกลับกัน
หากว่าหุ้นทำ High ใหม่ที่สูงกว่าเดิม ซึ่ง Indicator ก็ควรที่จะทำจุดสูงใหม่ ที่สูงกว่าจุดสูงสุดเก่า เพื่อให้สอดคล้องไปตามกร๊าฟ แต่เมื่อไหร่ที่ Indicator ไม่ทำจุดสูงใหม่ที่สูงกว่าเดิม แต่กลับเตี้ยกว่าจุดสูงเก่าก่อนหน้าอย่างนี้เรียกว่า เกิด Divergence แต่ว่าเป็น Divergence ที่ไม่ดีจึงเรียก Divergence แบบนี้ว่า Negative Divergence

ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยุ่ Set ไทยในระยะอันใกล้นี้ ดูรูป


ให้สังเกตุที่จุด B กร๊าฟทำจุดสูงใหม่ซึ่งมากกว่า 820 เมื่อเทียบกับที่จุด A ทำจุดสูงสุดไว้ที่ 820  อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่ง Indicator ตามปกติแล้วควรจะสอดคล้องหรือล้อไปกับกร๊าฟ ซึงนั้นหมายถึงว่าที่จุด B ของ Indicator ควรที่จะต้องสูงกว่าที่ A

แต่ว่าแนวโน้มอันใกล้นี้คงจะพอมองออกได้ว่าที่จุด B ไม่สามารถที่จะทำจุดสูง ให้สูงกว่าจุด A ได้อย่างแน่นอน จึงมีการมองกันว่า น่าจะเกิด Negative Divergence เร็วนี้ ซึ่งจะเริ่มเปลียนแนวโน้มเป็นขาลง แต่ว่าเมื่อไหร่เท่านั่นเอง  จุดของเวลานี้ก็เพียงแต่รอว่า Dowjones จะเริ่มลงเมื่อไหร่เท่านั้นเอง เพราะว่า Dowjones ก็ร่อแร่เต็มที่แล้วครับ  เดี่ยวมาดูรูปกันครับ






สาเหตุที่ 3 - ผลจากดาวโจนส์

หากว่าผมคาดการณ์ไม่ผิด การเด้งขึ้นของดาวโจนส์ในครั้งนี้จะเป็นการเด้งขึ้นเพื่อลงต่อ หากว่าดูรูปที่อยู่ในบทความก่อน จะเห็นว่าหน้าตาการทำคลื่นและเส้นสี จะเหมือนกับ Pattern ที่ให้ไว้เลยครับ

เนื่องจาก Dowjones ที่เห็นกันอยู่นี้ไม่ได้เป็นการขึ้นแต่ว่าเป็นการเด้งเพื่องลงต่อ เด้งขึ้นเพื่อทำคลื่น b3 เท่านั้น (จบคลื่น b3 ก็เท่ากับการจบรอบเด้ง B ใหญ่)  เมื่อจบรอบคลื่น B ใหญ่แล้วสิ่งที่จะตามมาก็คือการตามมาด้วยคลื่น C ใหญ่ ซึ่งเป็นการลงอย่างจริงๆจังๆ (คลื่น Cใหญ่ จะประกอบด้วยอีก 5 คลื่นย่อย) นั่นหมายถึงว่าเป็นการลงกันแรงๆๆและลงอย่างยาวนาน

ดังนั้นจึงสอดคล้องต้องกันหุ้นไทย ที่ Set จะไปต่อได้ยากอย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้ว ที่ Set ยังทรงๆอยุ่แถว 820 นี้ก็เพราะว่ากองทุนยังพยุงเอาไว้อยู่ เป็นการเลี้ยงขาย หรือ ทะยอยขายในราคาสูงออกมาก่อน เมื่อดาวโจนส์เริ่มลงเป็นคลื่น c3 เราจะเป็นว่ากองทุนเอย ฝรั่งเอย ขายกันแบบเทกระจายเลย เพราะว่าหากว่าดาวโจรลงเป็นคลื่น c3 นี้ก็จะเป็นคลื่นที่ลงกันแรงๆๆ และลงกันอย่างยาวนาน ไม่มีทางที่ Set ไทยจะวิ่งสวนขึ้นมาได้เลย

อีกประการหนึ่งให้สังเกตุนะครับว่า หุ้นไทยที่ขึ้นมาทำยอดสูงใหม่ที่สูงกว่าเดิมได้นี้ ไม่ได้ขึ้นมาเพราะว่าหุ้นใหญ่อย่าง PTT PTTEP BANPU ดันตลาดขึ้นมานะครับ แต่เป็นการขึ้นของตัวเล็กตัวน้อยที่เจ้ามือหุ้นปั่นขึ้นมา เพื่อเล่นเมื่อหุ้นใหญ่จะจบรอบครับ

คิดว่าเพื่อนที่อ่าน Blog คงมองภาพรวมออกบ้างแล้วเหมือนกันนะครับ ขนาดผมที่ไม่มีฝีมือหรือเรียกว่าเด็กๆยังอ่านออก เจ้ามือ หรือกองทุนมีหรือที่จะอ่านภาพรวมนี้ไม่ออก ผมว่าเค้าอ่านออกหมดแหละครับ เค้ามีสุดยอดฝืมืออยู่ในอานัติมากมายหลายต่อหลายคน จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินวิสัยที่จะรู้เรื่องนี้ แต่ยังไม่ใช่เวลาจะเทกระจาด เค้าก็ดึง ดัน Set เอาไว้ เพื่อที่จะได้ขายหุ้นในราคาสูงๆให้ได้มากที่สุดก่อน จากนั้นก็ ....... ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะครับ........เทกระจาด ทุบกันสุดๆๆ Short ฟิวเจอร์กันเต็มที่ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว
พวกเรารายย่อย ต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งช่วยๆกันออกมาเตือนภัยให้กันและกัน เพราะว่าตลาดหุ้นนั้นโหดร้ายมากครับ ทางที่ดีก็ระบายๆหุ้น ขายๆออกมาก่อน เล่นไปตามกองทุน โดยลดความเสี่ยงนะครับ เพราะว่า Set ไปไม่ไกลไปกว่านี้  หากว่าหุ้นที่ขายไปแล้วยังวิ่งไปต่อก็ไม่ต้องเสียดาย ผมรับรองว่ามีโอกาสซื้อคืนได้ในราคาที่ถูกกว่าขายไปแน่นอนครับผม

หากว่า ดาวโจร (เขียนไม่ผิดครับ เพราะว่ามันจะเป็นผู้ร้ายในเร็ววันนี้แน่นอน) เริ่มลงเมื่อไหร่ ก็ทะยอยล้าง Port ขายให้เกลี้ยงเลยนะครับ โดยเฉพาะเมื่อไม่ผ่าน 15300 จุดเส้นม่วงแสดซึ่งเป็นแนวต้านอยู่

                                                                                      โชคดีเป็นของผู้อ่านเกมส์ได้ก่อนเสมอ
                                                                                                      Vuthmail-Thailand
                                                                                                              14.07.53

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น