แล้วสิ่งที่คาดการณ์ไว้ก็มาถึงจนได้ ก็คือ ดาวโจนส์ ได้จบรอบเด้ง b3 แล้ว
ต่อไปจากนี้ ดาวโจนส์ ก็จะกลายเป็น "ดาวโจร " แทน เพราะว่าจะทำให้ตลาด
หุ้นทั่วโลกปรับตัวลงตามแนวโน้มหลักของ อเมริกา นั้นเอง
สิ่งต่อมาที่จะเกิดขึ้น ก็คือคำถามคืออะไร คำตอบก็คือว่า แล้วดาวโจนส์จะจบลงแถวไหนกัน
สิ่งนี้เป็นสิ่งยังไม่เกิดขึ้นจึงยังไม่สามารถที่จะบอกได้ แต่ว่าเราก็พอที่จะประมาณการณ์อย่าง
คร่าวๆได้ โดยดูจากประวัติเก่าๆและหลักของ ElliotWave พอจะช่วยเราได้อยู่บ้างเช่นกัน
โดยมีหลักการ ในการประเมินภาพคร่าวๆของคลื่น C ใหญ่ได้ดังต่อไปนี้ครับ
1.-เมื่อเกิดคลื่นลง A ใหญ่สมบรุณ์แล้ว (ครบ 5 คลื่นย่อยแล้ว)
2.-และตามมาด้วยคลื่นเด้ง B ใหญ่ (ครบ 3 คลื่นย่อยแล้ว)
เราสามารถที่พอจะประมาณการณ์ โดยการอาศัยคลื่นทั้ง 2 ตัวนี้เป็นจุดอ้างอิง
โดยมีหลักการณ์สำคัญอยู่ที่ว่า (อันนี้ต้องจำครับ)
คลื่น C ใหญ่จะมีระยะการลงจะเท่ากับ 100% 161.8% หรือ 261.8% ของคลื่น A ใหญ่
ดังนั้นเราจะต้องวัดระยะ Fibonaci ของคลื่น A ให้ได้เสียก่อน โดยให้วัดระยะจากจุดสูงสุด
ของยอดคลื่น ลงไปหาจุดต่ำสุดของคลื่น A นั้นเอง (หรือจากยอดสูงสุดของกร๊าฟไปที่ a5)
ให้นำระยะหรือเส้นที่ตีได้จากคลื่น A นี้ ย้ายไปวางไว้ที่ยอดสูงสุดของคลื่น B ( จุดสูง b3)
และจุดที่เป็นแนวรับสำคัญ จะอยู่ที่ 100% หากว่าลงไม่แรงนัก (ภาวะตลาดกำลังดีมาก)
161.8% หากว่าเป็นการลงตามปกติ
261.8% หากว่าเป็นการลงหนักเกินไป
เดี่ยวผมจะแสดง VDO ที่ใช้วัดระยะการลงจากยอดคลื่น A แล้วนำระยะที่วัดได้นี้ ย้ายไปวางที่ ยอด b3
หากว่ามีการลงแรงเนื่องจากปัญหาระดับโลก อย่าง SubPrime เรามาดูระดับการจบคลื่น C ใหญ่
ซึ่งจบคลื่น C ลงมาที่ระดับ 261.8% ของคลื่น A เลย (สาหัสมาก) จากประวัติเก่าๆที่ผ่านมาแล้ว
โดยปกติแล้วการลงของคลื่น C จะอยู่ที่ประมาณ 161.8% ของคลื่น A มากกว่าที่จะเป็น 100%
แต่ผมคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี Q3 และ Q4 ของ America คงจะทยอยมีข่าวดีออกมาเรื่อยๆ
เพราะอเมริการเศรษฐกิจกำลังกระเตื้องขึ้น และเวลาก็ล่วงเลยมาถึงเดือน 8 แล้ว (ใกล้สิ้นปี 2010)
กำไรสะสมของบริษัทต่างๆในอเมริกาคงไม่เลวร้ายนัก ดังนั้นในมองส่วนตัว คราวนี้คงดาวโจนส์
คงจะจบคลื่น C ใหญ่ลงมาที่ระดับ 100% ไม่ถึงระดับ 161.8% (ลงมาเท่ากับความยาวของคลื่น A)
ดังนั้นผมคาดการณ์ว่า จบคลื่น C ใหญ่ของดาวโจนส์แถวระดับ 9,000 จุดน่าจะเอาอยู่ แต่ว่าทุก
อย่างในตลาดหุ้นเป็นอะไรที่ต้องเผื่อใจไว้บ้างครับ หากว่าแนวรับ 9,000 จุดที่ผมประมาณการณ์
เอาไม่อยู่ก็ต้องมองลงมาที่ระดับ 161.8% หรือ 8,070 จุดไว้ด้วยนะครับ แต่คงไม่หลุดแนวนี้แน่ๆ
เพราะว่าที่ระดับ 8,070 จุดนี้เคยเป็นแนวรับแนวต้านสำคัญของคราวก่อน (ดูเส้นสีเหลืองในกร๊าฟ)
ในมุมมองของผมเอง ผมก็คาดว่า SET ไทยก็คงอยู่ในลักษณะเดียวกัน ก็คือลงมาที่ระดับ 100% ของ
คลื่น A มากกว่าจะที่ลงไปถึงระดับ 161.8% หรือ 261.8% เพราะว่าช่วงที่ผ่านมาเรายังแข็งแรงกว่า Dowjones มาก ประกอบกับค่าเงินของเรายังแข็งอยู่อย่างเห็นได้ชัด
แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอสำหรับตลาดหุ้น
โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่รายย่อยอย่างเราๆท่านๆไม่ได้เป็นผู้กำหนดทิศทางตลาด
Vuthmail-Thailand
14.08.53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น