หุ้นตัวนี้ลงมาตลอด 1ปีกว่าๆๆ แต่ว่าก็มีช่วงเด้งเพื่อให้คนที่ติดหุ้นอยู่ ขายหุ้นออกแต่ก็เป็นการออกแบบที่บาดเจ็บพอสมควร เพราะทุกครั้งของการเด้ง จะต่ำกว่าแนวตั้งฐานประมาณ 15% ซึ่งเจ้าก็เล่นแบบขาลงเก็บหุ้นเพิ่ม พร้อมทั้งทุบเอาของคืนเป็นช่วงๆ คนที่เข้าหุ้นไปในช่วงนี้ อย่าเพิ่งเสี่ยงรับเพิ่มนะครับ เพราะว่าโดยส่วนตัวคิดว่ายังจะมี New Low ใหม่ที่วิ่งไปหาแนว Low แถวๆ 0.60 บาทหรือต่ำกว่า เพราะว่าทุกครั้งเมื่อเล่นขาลง หุ้นตัวนี้จะถูกเทลงมาไม่ต่ำกว่า 161.8% ของยอดเขาก่อนหน้า อาจจะลงได้มากถึง 238.2%
จากประวัติเก่าที่ผ่านมา 2 ครั้ง เวลาหุ้นลงจะลงมาทดสอบแนวรับ Fibo 161.8% ทั้ง 2 ครั้ง (และยังลึกได้ถึง 231.6%)
ในช่วงอาทิตย์ 13.09.53 - 17.09.53 ก่อนได้หลุดแนวรับ Fibo 100% ของความลึกเขาก่อน (วัดลงจากยอดเขา ลงไปหาตีนเขา) ดังนั้นเมื่อหลุดแนวรับ 100% แล้ว แนวรับต่อไปก็คือแนวรับ 161.8% ของ Fibo หรือ 231.8%
ซึ่งราคาปิดวันศุกร์ที่ 17.09.53 ที่ระดับ 0.74 บาท ซึ่งหลุดแนวรับระดับ Fibo 100% แล้ว (หรือราวๆ 0.79 บาท ) ดังนั้นแนวรับต่อไปจะอยู่ที่ 0.70 (ที่ Fibo 161%) นั่นหมายความว่าราคาล่าสุดวันที่ 17.09.53 นั้นจะยังสามารถลงได้อีก ( ราคาวันที่ 17.09.53 นั้น 0.74 เริ่มเห็นแววขาดทุนแน่ๆ )
บางท่านที่มองเห็นแนวโน้มนี้แล้วคิดอย่างไรกันบ้าง ตัดขาดทุนตอนนี้แล้วรับกลับ หรือ จะทนถือกันต่อไป อันนี้เพื่อนๆ ต่างคนต่างก็มีมุมมองเป็นของตัวเอง ความคิดแตกต่าง ไม่เหมือนกัน นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เหมือนกัน
หากว่าเราสามารถ ที่จะรู้ได้แน่นอนว่า จะเกิดอะไรขึ้นในภายหน้าอย่างแน่นอน เราๆท่านๆก็จะเกิดมั่นใจ และกล้าตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ที่ไม่กล้าตัดสินใจเพราะเนื่องจากว่า ไม่แน่ใจว่าจะเกิดไรขึ้น อนาคตเป็นอย่างไร อยากจะขายแต่ก็กลัวว่าหุ้นวิ่งขึ้นต่อ หรือ รับหุ้นมาแล้วมีแต่ลงเอาๆ เพราะความไม่รู้อนาคตจึงทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ ( ซึ่งกร๊าฟก็สามารถช่วยได้บางส่วน-ให้เกิดความมั่นใจขึ้นได้บ้าง แต่กร๊าฟก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรือไม่ได้เป็นบทสรุป ) และผมก็เชื่อว่าคนที่ยอมทนขาดทุนไปเรื่อยๆ เกิดจากว่าไม่แน่ใจว่ามีแนวโน้มอย่างไรในอนาคตเสียมากกว่า จึงไม่กล้าตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดลงไป ซึ่งผมเองก็เป็นครับ เพราะ
ทุกครั้งของการตัดสินใจ จะมีแค่ตัดสินใจถูกกับตัดสินใจผิด
ดังนั้นก่อนที่ผมจะตัดสินใจ ผมจะพยายามหาข้อสรุปให้ได้ก่อน แล้วนำไปสู่การตัดสินใจ สิ่งหนึ่งที่มีใช้เป็นประจำก็คือ การย้อนดูกร๊าฟเพื่อหาดูประวัติเก่าๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน เพื่อพยายามให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุด หากว่าได้ข้อมูลมาแล้ว ทำการตัดสินใจไปแล้วเกิดความผิดพลาดก็ไม่โทษใคร-เสียใจบ้างเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งทีเราจะได้ก็คือ " การที่เราได้พยายามทำ-ในสิ่งที่ควรทำแล้ว "
จากที่ผมได้ประเมินจากข้อมูลประวัติเก่าๆ ของ CASE นี้ ผมจะยอมตัดขาดทุน หยุดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากว่าราคาจะไหลลงไปต่อที่ Fibo 161.8% และอาจจะไหลลงลึกกว่า Fibo 161.8% ที่คาดการณ์เอาไว้ก็เป็นไปได้
ดังนั้นหากตัดขาดทุนในวันจันทร์ที่ 20.09.53 ก็จะไปรอดูที่ Fibo 161.8% (ราคา 0.70 ) ก็ประหยัดขาดทุนได้ 0.04 บาท แล้วรอดูว่าแนวรับ Fibo 161.8% จะรับอยู่หรือไม่ หากว่าเอาไว้ไม่อยู่ก็จะไปรอรับที่ Fibo 231.6% แทนเลย ซึ่งยิ่งทำให้ประหยัด ลดการขาดทุนได้มากขึ้นไปอีก ( 0.74-0.59 เท่ากับ 0.15 ) ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการลงอีก 1-2 อาทิตย์ หรืออาจจะรอซื้อเมื่อมีสัญญาณทางเทคนิค ที่บ่งบอกการเด้ง คือเมื่อ RSI ลงอยู่ที่แถวๆ 30% และเริ่มกระดกขึ้น หรือ MACD ตัดกันงอขึ้น โดยมีจุดต่ำยกตัวสูงขึ้น แล้วจึงค่อยซื้อคืน-รับหุ้นกลับในจำนวนหุ้นที่มากขึ้น (หุ้นงอก-ได้หุ้นเพิ่มขึ้น Short Againt Port หุ้นขาลง ตามที่ครูเฒ่าเกาะช้าง ท่านสอนไว้) ซึ่งผมว่าจะเป็นการดีกว่า ที่จะทนถือ ถือทน แล้วเกิดขาดทุนมโหฬารอย่างที่ผมเคยเป็นมา
สิ่งที่ผมเขียนนี้ไม่ได้ เกิดจากการที่ผมจะ Cheer ให้ท่านตัดขาดทุน แล้วก็ความเสียหาย เกิดขาดทุน
ผมเองนั้นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเพื่อนๆ และผมก็ไม่มีหุ้นตัวนี้ แต่ที่หยิบยกขึ้นเขียนมานี้ เพื่อเป็นการประเมินภาพในมุมมองส่วนตัวว่าจะมีความถูกต้องมากน้อยกี่ % และมีความผิดพลาดจุดไหนอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นจริง ยังไม่มีความแน่นอน เป็นเพียงการประเมินภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ครับ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อเป็นการฝึกทักษะของผม ที่นำเอาเครื่องไม้เครื่องมือต่าง มาใช้ในการช่วยมองหา แนวรับ แนวต้าน และราคาที่เหมาะสม ใช้อะไรเป็นมุมมองการรับหุ้นที่จุดไหน-อย่างไร-ราคาเท่าไหร่ ใช้ในการประเมินหา จุดถอยหนี จุดตั้งรับ อย่างมีระบบ
และที่นำมาลงไว้ใน Blog ก็เพียงเพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตาม การนำเครื่องมือต่างๆที่นำออกมาใช้ มีวิธีการใช้อย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นการติดตามพฤติกรรมของหุ้นที่เกิด New Low - Lowแล้ว Lowอีก ซึ่งสอดคล้องตามหัวเรื่องที่ผมได้จั่วไว้คือ " หุ้นอันตราย "
เงินทองเป็นสิ่งหายาก ได้มาด้วยความลำบาก ท่านต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
ผมได้ประเมินภาพต่อไปข้างหน้า อีก 1-2 เดือนจากนี้ไป ดังภาพด้านล่างนี้
ในส่วนของกร๊าฟเราได้ประเมินภาพรวมให้ไปแล้ว ทีนี้ก็ย้อนมาดูที่ผลประกอบการของบริษัทกันบ้างครับ
ด้วยผลประกอบการที่ผ่านมาของบริษัทนั้น มีกำไรมากในปี 49-50 แต่ว่าตั้งแต่ปี 51- 52 ใน 2 ปีหลังนี้ กำไรลดลงไปมากๆ เงินปันผลที่ได้ก็มี แต่ดูๆแล้วออกจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยธนาคาร (ดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคต) และผลประการของปี 53 ที่อาจจะยังไม่ฟื้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นลงมาตลอด 1ปี 1 เดือนนี้
ซึ่งตามหลักวิชา 3 เขา 3 เหวของครูเฒ่าเกาะช้าง ท่านได้แนะนำถึงวิธีที่ท่านใช้ในการเลือกหุ้น-ไว้ให้เป็นแนวทางดังนี้คือ ควรจะเลือกหุ้นที่มี PE ไม่เกิน 10 ค่า Book ต่ำกว่า 2 และควรมีปันผล เมื่อเลือกหุ้นได้แล้วให้ค่อยทะยอยสะสมหุ้น ครั้งละ 1/9 ของเงินที่มี ซึ่งท่านเน้นมากว่า-" ห้ามลงหมดในครั้งเดียว " เพราะสาเหตุเราว่าอาจจะเข้าหุ้นผิดจังหวะ หรือเลือกหุ้นผิด และหุ้นลงมาตลอด หากว่าลงเงินที่เดียวทั้งก้อน ก็จะทำให้ไม่เหลือเงินเพี่ยงพอที่จะสามารถนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ ในยามฉุกเฉินอย่างกรณีนี้
ที่นี้เรามาดูหุ้นตัวนี้กันบ้างครับ
ปี ค่า PE
ผลประกอบการ 49 37.61
50 22.11
51 114.65
52 34.06
ครึ่งปี 53 12.35
เราจะเห็นว่าค่า PE สูงมาตลอด และตอนนี้ปัจจุบันนี้ค่า PE อยู่ที่ 12.35 เท่า หากว่าหุ้นตัวนี้ราคาลงมาอยู่ที่ระดับ 0.60 ตามที่ประเมินกันไว้ หุ้นตัวนี้ก็จะมีค่า PE ที่ลดลงอย่างมาก รอดูไปอีกสักนิดหน่อยจะดีกว่านะครับ เพราะว่าการลงครั้งนี้อาจจะมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่ ด้วยกำไรปี53 อาจจะไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นก็ได้ รอดูงบเมื่อครบไดรมาส 3 กันสักหน่อยน่าจะดีกว่า และเป็นการรอให้เกิดภาพ Positive Divergence ค่า PE ต่ำกว่า 10 เท่า ซึ่งคาดว่าช่วงเวลาก่อนงบออก ก็จะใกล้ๆ กับราคาที่ได้ประเมินไว้ ค่า PE ก็จะเหมาะสม สอดคล้องต้องกันกับระยะเวลาของกร๊าฟ เมื่อได้ครบทั้ง 2 กรณี ก็จะเข้าตามสูตร จากนั้นจึงค่อยมาทะยอยสะสม หรือรับหุ้นกลับคืนก็ยังทันครับ
18.09.53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น