วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หุ้นดี - มีปันผลงาม ลงอย่างนี้ต้องเล่น

หายไปนานเลยครับ 555

พอดีผมเคยสังเกตุหุ้นตัวนี้ก่อนที่จะเด้งขึ้นแรงๆ แต่ว่าช่วงนั้นยังติดพันอยู่ก็เลยไม่ได้เข้าแหม ขึ้นได้ใจจริงๆเลยครับ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจว่าลงมาให้นิ่งๆ ดีๆ ก็จะเริ่มเข้าไปเกี่ยวก้อยมาเสียหน่อย ตอนนี้เป็นโอกาสเล็กๆแล้วครับ

ตัวนี้ตอนขาขึ้นเส้นม่วงจะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ลงมาที่เส้นม่วงแล้วก็เด้งได้ตลอดขึ้นไปกันยาวเลย แต่พอจบรอบ ลงหลุดเส้นม่วง ก็ลงแบบดูไม่จืดเลยครับ ลงแบบไม่มีการเด้งให้มีจังหวะตัดขาดทุนเลยตั้งแต่หลุดม่วงลงมา ดูในกรอบสีขาวนะครับ

การลงในครั้งนี้ให้สังเกตุว่า ลงมาแบบทิ้งดิ่ง ลงมาจนแท่งเทียนอยู่ต่ำกว่าเส้นม่วง-แสดแล้ว ซึ่งการลงใน ครั้งนี้ลงเร็วมากเกินไปครับ เส้นขาวฟ้ากำลังจะตัดเส้นแสดแล้ว อย่างนี้ไม่ต้องบอกเลยครับว่าไม่ใช่เป็นการพักตัวแบบ 3 คลื่นย่อยแล้ว แต่จะเป็นการลงแบบที่จบรอบ จนเส้นม่วงตัดแสดลงอย่างแน่นอน ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างเร็ว หรืออย่างช้าก็อีก 4  เดือนโดยประมาณๆ  ตามวิชา 3 เขา 3 เหวของครูเฒ่าเกาะช้าง เหว1 ใช้เวลา 1-2 เดือน เหว2 ใช้เวลา 1-2 เดือน เหว3 ใช้เวลา 1-2 เดือน  อย่างที่ได้บอกไปแล้วครับ ตัวนี้แค่ 2 เดือนลงมาอยู่ใต้ม่วงแสด ซึ่งลงแรงเกินไป

ซึ่งการลงแบบนี้ ผมตั้งข้อสังเกตุว่า ในระยะ 2 เดือนถูกทิ้งลงจนหลุดม่วงแสดอย่างนี้ ผิดหลักการ  เป็นการลงที่ผิดปกติ เหมือนเจ้าตั้งใจทุบเอาของ ทุบลงอย่างเดียวเลย ลงจนเส้นขาวห่างจากเส้นฟ้ามากเกินไปครับ หุ้นลงมากจนเส้นขาวห่างฟ้ามากอย่างนี้จะต้องมีการเด้งเสียก่อน เด้งขึ้นให้เส้นขาวยกตัวขึ้นรอเส้นฟ้า ซึ่งกำลังพุ่งลงมา และทอดเวลาออกไปเพื่อให้เส้นขาวฟ้าอยู่ใกล้กัน ไม่ห่างกันมากเกินไป ซึ่งการเด้งรอบนี้ผมมองว่าสามารถเด้งขึ้นไปหาเส้นแสดเลยครับ หรืออย่างน้อยที่สุดระยะ 10-25 วัน หรือ 10-25 แท่งเทียนก็ประมาณแถว 2.46 บาท



โดยส่วนตัวมองแล้วว่า ระดับแถวแนว 261.8% หรือแถว 2 บาท น่าจะเกิดการเด้ง ซึ่งก็ในเวลาอีกไม่นานนี้แล้ว เพราะผมมองว่าถึงแม้ว่าจะลงก็ลงได้อีกไม่มาก ลงได้อีกไม่นาน แล้วก็คงจะเริ่มเด้ง  หากว่าผิดพลาดทางเทคนิค เจ้ายังทุบลงมาอีก ผมว่าจะมีคนคอยเก็บหุ้นเอาไว้เพื่อรับปันผลงามๆๆ ระดับ 7% นิดๆ ซึ่งคุ้มกว่าดอกเบี้ยธนาคารเป็นไหนๆๆ และบริษัทนี้เงินสดในมือมาก  ไม่รู้จะไปทำอะไร ตอนนี้ได้ข่าวว่าเริ่มไปทำสนามกล๊อฟทางตอนเหนืออเมริกาซึ่งอยู่ใกล้กับแคนนาดาแล้ว ครับ

แต่ว่าเป็นการเด้ง ไม่ใช่เป็นรอบขาขึ้น เด้นแล้วลงต่อ ดังนั้นจึงยังสามารถเล่นรอบเด้งได้อีก 2-3 ครั้ง จนเวลาครบตามระยะเวลา 4-6 เดือน รอจนเส้นม่วงมุดตัดแสดลงแล้วครับ  จึงจะจบขาลงอย่างสมบรูณ์ตามแนว วิชา 3 เขา 3 เหว ของครูเฒ่าเกาะช้างเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาดูกันว่าจะกลับเป็นรอบขาขึ้นได้จริงหรือยัง

                                                                                   Vuthmail-Thailand

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

แก้ไข Error - svchost ( แล้วตามด้วย 0x........ )

การแก้ไขปัญหา SVC host  Error ตัวนี้เป็นปัญหาเรื่องของ Memory ในเครื่องรั่ว
หากว่าท่านเจอปัญหานี้ สิ่งที่เพื่อนๆจะต้องทำในขั้นแรก ก็คือ การเพิกเฉย อย่าเพิ่ง ตอบตกลงใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพราะหากว่าตอบ Yes หรือ No เครื่อง Computor จะอึดทันที ทำอะไรไม่ได้เลย แถบจะไม่มีการตอบสนองต่อคำสั่งใดเลย  จากนั้นให้ท่านเลื่อนหน้าจอที่ปรากฏขึ้นมา ไปไว้ที่อื่น อย่าให้เกะกะสายตา  จากนั้นในดำเนินการตามนี้

สิ่งที่จะต้องทำก่อนก็คือ การไป Download โปรแกรม 3 ตัวนี้มาก่อน
โปรแกรมทั้ง 3 ตัวนี้จะต้องนำมาใส่ไว้ทื่รากของ Drive C:\ - เท่านั้น

•Download this file - fix_svchost.bat   
•Download this file - WindowsXP-KB927891.exe
•Download WindowsXP-KB927891-v3-x86-ENU.exe

---------------------------------------------------------------

•Download this file - fix_svchost.bat  ได้ที่ - http://www.technibble.com/downloads/windows-tools/fix_svchost.bat

•Download this file - WindowsXP-KB927891.exe  ได้ที่ - http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyId=7A81B0CD-A0B9-497E-8A89-404327772E5A&displaylang=en

•Download WindowsXP-KB927891-v3-x86-ENU.exe ได้ที่ - http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkID=91237

---------------------------------------------------------------

แนวทางการแก้ไข จะต้องเข้า Safe Mode ก่อนที่จะเข้าสู่หน้าต่างของ Windows
โดยการกดปุ่ม F8 ในขณะเครื่องเป็นหน้าจอสีดำ - ก่อนที่จะเข้า Windows

เมื่ออยู่ใน Windows ที่เป็น Safa Mode แล้วให้ทำการ Login ใน User ของ
Adminstrator ซึ่งเป็นผู้ควบคุมระบบ จากนั้นให้ทำการติดตั้งโปรแกรมทั้ง 3 ตัวนี้

โดยไปที่ปุ่ม Start ---> Run --->  เลือก fix_svchost.bat
โดยไปที่ปุ่ม Start ---> Run --->  เลือก WindowsXP-KB927891.exe
โดยไปที่ปุ่ม Start ---> Run --->  เลือก WindowsXP-KB927891-v3-x86-ENU.exe

                                                                                     Vuthmail-Thailand
                                                                                            24.09.53

ดาวโจนส์ จะเริ่มอ่อนตัว

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

หุ้นอันตราย

หุ้นอันตราย หากว่าจะเป็นการเล่นสั้น โอกาสบาดเจ็บสูง

หุ้นตัวนี้ลงมาตลอด 1ปีกว่าๆๆ แต่ว่าก็มีช่วงเด้งเพื่อให้คนที่ติดหุ้นอยู่ ขายหุ้นออกแต่ก็เป็นการออกแบบที่บาดเจ็บพอสมควร เพราะทุกครั้งของการเด้ง จะต่ำกว่าแนวตั้งฐานประมาณ 15% ซึ่งเจ้าก็เล่นแบบขาลงเก็บหุ้นเพิ่ม พร้อมทั้งทุบเอาของคืนเป็นช่วงๆ คนที่เข้าหุ้นไปในช่วงนี้ อย่าเพิ่งเสี่ยงรับเพิ่มนะครับ เพราะว่าโดยส่วนตัวคิดว่ายังจะมี New Low ใหม่ที่วิ่งไปหาแนว Low แถวๆ 0.60 บาทหรือต่ำกว่า เพราะว่าทุกครั้งเมื่อเล่นขาลง หุ้นตัวนี้จะถูกเทลงมาไม่ต่ำกว่า 161.8% ของยอดเขาก่อนหน้า  อาจจะลงได้มากถึง 238.2%




จากประวัติเก่าที่ผ่านมา 2 ครั้ง เวลาหุ้นลงจะลงมาทดสอบแนวรับ Fibo 161.8% ทั้ง 2 ครั้ง (และยังลึกได้ถึง 231.6%) 

ในช่วงอาทิตย์ 13.09.53 - 17.09.53 ก่อนได้หลุดแนวรับ Fibo 100% ของความลึกเขาก่อน (วัดลงจากยอดเขา ลงไปหาตีนเขา)  ดังนั้นเมื่อหลุดแนวรับ 100% แล้ว แนวรับต่อไปก็คือแนวรับ 161.8% ของ Fibo หรือ 231.8%

ซึ่งราคาปิดวันศุกร์ที่ 17.09.53 ที่ระดับ 0.74 บาท ซึ่งหลุดแนวรับระดับ Fibo 100% แล้ว (หรือราวๆ 0.79 บาท ) ดังนั้นแนวรับต่อไปจะอยู่ที่ 0.70 (ที่ Fibo 161%)  นั่นหมายความว่าราคาล่าสุดวันที่ 17.09.53 นั้นจะยังสามารถลงได้อีก ( ราคาวันที่ 17.09.53 นั้น 0.74 เริ่มเห็นแววขาดทุนแน่ๆ ) 

บางท่านที่มองเห็นแนวโน้มนี้แล้วคิดอย่างไรกันบ้าง  ตัดขาดทุนตอนนี้แล้วรับกลับ หรือ จะทนถือกันต่อไป อันนี้เพื่อนๆ ต่างคนต่างก็มีมุมมองเป็นของตัวเอง ความคิดแตกต่าง ไม่เหมือนกัน นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เหมือนกัน

หากว่าเราสามารถ ที่จะรู้ได้แน่นอนว่า จะเกิดอะไรขึ้นในภายหน้าอย่างแน่นอน เราๆท่านๆก็จะเกิดมั่นใจ และกล้าตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ที่ไม่กล้าตัดสินใจเพราะเนื่องจากว่า ไม่แน่ใจว่าจะเกิดไรขึ้น อนาคตเป็นอย่างไร อยากจะขายแต่ก็กลัวว่าหุ้นวิ่งขึ้นต่อ หรือ รับหุ้นมาแล้วมีแต่ลงเอาๆ  เพราะความไม่รู้อนาคตจึงทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ ( ซึ่งกร๊าฟก็สามารถช่วยได้บางส่วน-ให้เกิดความมั่นใจขึ้นได้บ้าง แต่กร๊าฟก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรือไม่ได้เป็นบทสรุป ) และผมก็เชื่อว่าคนที่ยอมทนขาดทุนไปเรื่อยๆ เกิดจากว่าไม่แน่ใจว่ามีแนวโน้มอย่างไรในอนาคตเสียมากกว่า จึงไม่กล้าตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดลงไป ซึ่งผมเองก็เป็นครับ เพราะ

   ทุกครั้งของการตัดสินใจ จะมีแค่ตัดสินใจถูกกับตัดสินใจผิด    

ดังนั้นก่อนที่ผมจะตัดสินใจ ผมจะพยายามหาข้อสรุปให้ได้ก่อน แล้วนำไปสู่การตัดสินใจ สิ่งหนึ่งที่มีใช้เป็นประจำก็คือ การย้อนดูกร๊าฟเพื่อหาดูประวัติเก่าๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน เพื่อพยายามให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุด  หากว่าได้ข้อมูลมาแล้ว ทำการตัดสินใจไปแล้วเกิดความผิดพลาดก็ไม่โทษใคร-เสียใจบ้างเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งทีเราจะได้ก็คือ  " การที่เราได้พยายามทำ-ในสิ่งที่ควรทำแล้ว " 

จากที่ผมได้ประเมินจากข้อมูลประวัติเก่าๆ ของ CASE นี้ ผมจะยอมตัดขาดทุน  หยุดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากว่าราคาจะไหลลงไปต่อที่ Fibo 161.8%  และอาจจะไหลลงลึกกว่า Fibo 161.8% ที่คาดการณ์เอาไว้ก็เป็นไปได้ 

ดังนั้นหากตัดขาดทุนในวันจันทร์ที่ 20.09.53 ก็จะไปรอดูที่ Fibo 161.8% (ราคา 0.70 ) ก็ประหยัดขาดทุนได้ 0.04 บาท  แล้วรอดูว่าแนวรับ Fibo 161.8% จะรับอยู่หรือไม่  หากว่าเอาไว้ไม่อยู่ก็จะไปรอรับที่ Fibo 231.6% แทนเลย ซึ่งยิ่งทำให้ประหยัด ลดการขาดทุนได้มากขึ้นไปอีก ( 0.74-0.59 เท่ากับ 0.15 ) ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการลงอีก 1-2 อาทิตย์ หรืออาจจะรอซื้อเมื่อมีสัญญาณทางเทคนิค ที่บ่งบอกการเด้ง คือเมื่อ RSI ลงอยู่ที่แถวๆ 30% และเริ่มกระดกขึ้น  หรือ MACD ตัดกันงอขึ้น โดยมีจุดต่ำยกตัวสูงขึ้น แล้วจึงค่อยซื้อคืน-รับหุ้นกลับในจำนวนหุ้นที่มากขึ้น (หุ้นงอก-ได้หุ้นเพิ่มขึ้น Short Againt Port หุ้นขาลง ตามที่ครูเฒ่าเกาะช้าง ท่านสอนไว้) ซึ่งผมว่าจะเป็นการดีกว่า ที่จะทนถือ ถือทน แล้วเกิดขาดทุนมโหฬารอย่างที่ผมเคยเป็นมา

สิ่งที่ผมเขียนนี้ไม่ได้ เกิดจากการที่ผมจะ Cheer ให้ท่านตัดขาดทุน แล้วก็ความเสียหาย เกิดขาดทุน
ผมเองนั้นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเพื่อนๆ และผมก็ไม่มีหุ้นตัวนี้ แต่ที่หยิบยกขึ้นเขียนมานี้ เพื่อเป็นการประเมินภาพในมุมมองส่วนตัวว่าจะมีความถูกต้องมากน้อยกี่ % และมีความผิดพลาดจุดไหนอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นจริง ยังไม่มีความแน่นอน เป็นเพียงการประเมินภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ครับ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อเป็นการฝึกทักษะของผม ที่นำเอาเครื่องไม้เครื่องมือต่าง มาใช้ในการช่วยมองหา แนวรับ แนวต้าน และราคาที่เหมาะสม ใช้อะไรเป็นมุมมองการรับหุ้นที่จุดไหน-อย่างไร-ราคาเท่าไหร่  ใช้ในการประเมินหา จุดถอยหนี จุดตั้งรับ อย่างมีระบบ

และที่นำมาลงไว้ใน Blog ก็เพียงเพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตาม การนำเครื่องมือต่างๆที่นำออกมาใช้ มีวิธีการใช้อย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นการติดตามพฤติกรรมของหุ้นที่เกิด New Low - Lowแล้ว Lowอีก ซึ่งสอดคล้องตามหัวเรื่องที่ผมได้จั่วไว้คือ    " หุ้นอันตราย " 

เงินทองเป็นสิ่งหายาก ได้มาด้วยความลำบาก  ท่านต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง 

ผมได้ประเมินภาพต่อไปข้างหน้า อีก 1-2 เดือนจากนี้ไป ดังภาพด้านล่างนี้



ในส่วนของกร๊าฟเราได้ประเมินภาพรวมให้ไปแล้ว ทีนี้ก็ย้อนมาดูที่ผลประกอบการของบริษัทกันบ้างครับ

ด้วยผลประกอบการที่ผ่านมาของบริษัทนั้น มีกำไรมากในปี 49-50  แต่ว่าตั้งแต่ปี 51- 52 ใน 2 ปีหลังนี้ กำไรลดลงไปมากๆ เงินปันผลที่ได้ก็มี แต่ดูๆแล้วออกจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยธนาคาร (ดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคต) และผลประการของปี 53 ที่อาจจะยังไม่ฟื้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นลงมาตลอด 1ปี 1 เดือนนี้

ซึ่งตามหลักวิชา 3 เขา 3 เหวของครูเฒ่าเกาะช้าง ท่านได้แนะนำถึงวิธีที่ท่านใช้ในการเลือกหุ้น-ไว้ให้เป็นแนวทางดังนี้คือ ควรจะเลือกหุ้นที่มี PE ไม่เกิน 10  ค่า Book ต่ำกว่า 2 และควรมีปันผล เมื่อเลือกหุ้นได้แล้วให้ค่อยทะยอยสะสมหุ้น ครั้งละ 1/9 ของเงินที่มี  ซึ่งท่านเน้นมากว่า-" ห้ามลงหมดในครั้งเดียว "  เพราะสาเหตุเราว่าอาจจะเข้าหุ้นผิดจังหวะ หรือเลือกหุ้นผิด และหุ้นลงมาตลอด หากว่าลงเงินที่เดียวทั้งก้อน ก็จะทำให้ไม่เหลือเงินเพี่ยงพอที่จะสามารถนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ ในยามฉุกเฉินอย่างกรณีนี้

ที่นี้เรามาดูหุ้นตัวนี้กันบ้างครับ
        
                                   ปี      ค่า PE    
   ผลประกอบการ         49      37.61
                                   50       22.11
                                   51      114.65
                                   52       34.06
                          ครึ่งปี 53      12.35

เราจะเห็นว่าค่า PE สูงมาตลอด  และตอนนี้ปัจจุบันนี้ค่า PE อยู่ที่ 12.35 เท่า  หากว่าหุ้นตัวนี้ราคาลงมาอยู่ที่ระดับ 0.60 ตามที่ประเมินกันไว้ หุ้นตัวนี้ก็จะมีค่า PE ที่ลดลงอย่างมาก รอดูไปอีกสักนิดหน่อยจะดีกว่านะครับ เพราะว่าการลงครั้งนี้อาจจะมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่ ด้วยกำไรปี53 อาจจะไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นก็ได้  รอดูงบเมื่อครบไดรมาส 3 กันสักหน่อยน่าจะดีกว่า และเป็นการรอให้เกิดภาพ Positive Divergence ค่า PE ต่ำกว่า 10  เท่า ซึ่งคาดว่าช่วงเวลาก่อนงบออก ก็จะใกล้ๆ กับราคาที่ได้ประเมินไว้ ค่า PE ก็จะเหมาะสม สอดคล้องต้องกันกับระยะเวลาของกร๊าฟ เมื่อได้ครบทั้ง 2 กรณี ก็จะเข้าตามสูตร  จากนั้นจึงค่อยมาทะยอยสะสม หรือรับหุ้นกลับคืนก็ยังทันครับ

                                                                                Vuthmail-Thailand
                          18.09.53

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ฟ้องด้วยภาพครับ

หลังจากได้ทำ Case Study หุ้นตัวนี้ให้ดูเพื่อจับจังหวะหุ้นแต่ละตัว

วันศุกร์ 03.09.53 ที่ผ่านมา Case Study ก็ขึ้นมาแรงได้ใจจริงๆๆ  ขึ้นมา Ceilling - 30% มาปิดที่ 3.58 บาท และวันนี้ 06.09.53เปิดตลาดเช้าก็ดันขึ้นไปที่ 4.12 บาท ( ขึ้นมาอีก 0.54 บาท )  ซึ่งการเปิดกระโดดอย่างนี้ เรียกกันว่าเป็นการเปิด Gap ซึ่งหากว่าเปิดกระโดด เปิด Gap ไว้อย่างนี้ มีทางเลือก 2 อย่างคือว่า

1.- หากว่าจะไปต่อ หลังเปิด Gap ไว้ก็จะไปต่อได้แรงมากทีเดียว
2.-หากว่าไม่ไปหรือไปไม่ไหว หุ้นก็จะไหลลงมาปิด Gap ที่เปิดไว้ (ระยะเวลาที่ใช้การปิด Gap นั้นไม่แน่นอน ตายตัว)

แต่ว่า Case Study ของเราเลือกทางไปไม่ไหว จึงถูกแรงเทขายออกมาจากคนที่ติดหุ้นอยู่ และจากนัก เทคนิค ที่ขายทำกำไรระยะสั้นออกมา กร๊าฟเทคนิคที่เก่ง (ไม่ใช่ผมนะครับ) คงทราบหลักการนี้อยู่ หากเปิดกระโดดแล้วไม่ไปต่อ หุ้นก็จะไหลลงมาปิด Gap ที่เปิดทิ้งเอาไว้  ซึ่ง Gap ที่เปิดนี้ก็สามารถใช้เป็นแนวรับ แนวต้านได้เหมือนกัน



อันนี้เพื่อนๆควรจะต้องจำคือ     Gap ที่เปิดไว้จะใช้เป็นแนวรับแนวต้านได้ จนกว่า Gap นั้นจะถูกปิด 

ซึ่งวันนี้ Gap ที่ถูกเปิดไว้ตอนเปิดตลาดเช้า (ระหว่างราคาปิดตลาดของวันก่อนที่ 3.58 บาทกับราคาที่เปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ 4.12  บาท) ช่อง Gap วันนี้ก็ได้ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้วในตอนท้ายตลาด และอาจจะเป็นสาเหตุนี้ที่จะทำให้หุ้นเริ่มเข้าสู่ภาวะการพักตัวเพื่อเก็บสะสมกำลังใหม่

  ก่อนที่จะค่อยๆขึ้นไป เพื่อทำยอดเขา 3 ตามหลัก 3 เขา 3 เหว ของครูเฒ่าเกาะช้าง 

หลักการหนึ่งของ Eliott Wave ก็คือว่าหากหุ้นจะไปต่อการพักตัวไม่ควรที่จะหลุดระดับ Fibonaci ที่ลากจากยอดเขาลงไปหาที่ฐานเขา ที่ยิงขึ้นมา (ดูรูปประกอบ) ในระดับ 61.8%

หากว่าพักตัวไม่หลุด ระดับ Fibonaci ระดับ 38.2% หุ้นจะไปต่ออย่างรวดเร็ว (ยังไม่จบยอดเขา 2) แต่หากให้ดีพัก ระดับ 61.8% หุ้นจะไปพักตัวเล็กน้อย พักตัวสั้นๆแล้วไปต่อ



แต่หากว่าหลุด 61.8 % ลงมาก็จะลงมาแถวๆ ฐานเดิม (ผมใช้คำว่า แถวๆๆนะครับ ไม่เปะ ) และมาตั้งฐานใหม่ และทำตีนเขา 3 ที่มีจุดต่ำยกสูงขึ้นกว่าตีนเขา 2 โดยการยึดหลักสำคัญที่ใช้ได้ตลอดทุกช่วงก็คือ
  หลัก - เหวใหม่ไม่ต่ำกว่าเหวก่อน หุ้นจะไปต่อ   
(ซึ่งหลักนี้ก็มีอยู่ในหนังสือของครูเฒ่าเกาะช้าง ทุกเล่ม ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ)

ซึ่งในรูปผมได้ใส่ เครื่องหมาย ???? ไว้ ซึ่งจะเป็นแนว เหวใหม่ (ตีนเขา 3) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำจุดต่ำยกสูงกว่า เหวก่อน (ตีนเขา 2)  เมื่อทำเหวใหม่ไม่ต่ำกว่าเหวก่อนและพักตัวสักระยะหนึ่งก็พร้อมที่จะขึ้นต่อไป เพื่อทำยอดเขา 3 ที่สูงกว่ายอดเขา 2

    หมายเหตุ Case Study อีกตัวคงจะได้เห็นการขึ้นในเร็วๆวันนี้นะครับ      

                                                               Vuthmail - Thailand
                                                                       07.09.53

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Dowjones จบรอบแล้ว

แล้วสิ่งที่คาดการณ์ไว้ก็มาถึงจนได้ ก็คือ ดาวโจนส์ ได้จบรอบเด้ง b3 แล้ว
ต่อไปจากนี้ ดาวโจนส์ ก็จะกลายเป็น "ดาวโจร " แทน เพราะว่าจะทำให้ตลาด
หุ้นทั่วโลกปรับตัวลงตามแนวโน้มหลักของ อเมริกา นั้นเอง

สิ่งต่อมาที่จะเกิดขึ้น ก็คือคำถามคืออะไร คำตอบก็คือว่า แล้วดาวโจนส์จะจบลงแถวไหนกัน
สิ่งนี้เป็นสิ่งยังไม่เกิดขึ้นจึงยังไม่สามารถที่จะบอกได้ แต่ว่าเราก็พอที่จะประมาณการณ์อย่าง
คร่าวๆได้ โดยดูจากประวัติเก่าๆและหลักของ ElliotWave พอจะช่วยเราได้อยู่บ้างเช่นกัน

โดยมีหลักการ ในการประเมินภาพคร่าวๆของคลื่น C ใหญ่ได้ดังต่อไปนี้ครับ
1.-เมื่อเกิดคลื่นลง A ใหญ่สมบรุณ์แล้ว (ครบ 5 คลื่นย่อยแล้ว)
2.-และตามมาด้วยคลื่นเด้ง B ใหญ่ (ครบ 3 คลื่นย่อยแล้ว)

เราสามารถที่พอจะประมาณการณ์ โดยการอาศัยคลื่นทั้ง 2 ตัวนี้เป็นจุดอ้างอิง

โดยมีหลักการณ์สำคัญอยู่ที่ว่า (อันนี้ต้องจำครับ)
คลื่น C ใหญ่จะมีระยะการลงจะเท่ากับ 100%  161.8% หรือ 261.8% ของคลื่น A ใหญ่
ดังนั้นเราจะต้องวัดระยะ Fibonaci ของคลื่น A ให้ได้เสียก่อน โดยให้วัดระยะจากจุดสูงสุด
ของยอดคลื่น ลงไปหาจุดต่ำสุดของคลื่น A นั้นเอง (หรือจากยอดสูงสุดของกร๊าฟไปที่ a5)

ให้นำระยะหรือเส้นที่ตีได้จากคลื่น A นี้ ย้ายไปวางไว้ที่ยอดสูงสุดของคลื่น B ( จุดสูง b3)

และจุดที่เป็นแนวรับสำคัญ จะอยู่ที่ 100% หากว่าลงไม่แรงนัก (ภาวะตลาดกำลังดีมาก)
                                                     161.8% หากว่าเป็นการลงตามปกติ
                                                     261.8% หากว่าเป็นการลงหนักเกินไป

เดี่ยวผมจะแสดง VDO ที่ใช้วัดระยะการลงจากยอดคลื่น A แล้วนำระยะที่วัดได้นี้ ย้ายไปวางที่ ยอด b3




หากว่ามีการลงแรงเนื่องจากปัญหาระดับโลก อย่าง SubPrime เรามาดูระดับการจบคลื่น C ใหญ่
ซึ่งจบคลื่น C ลงมาที่ระดับ 261.8% ของคลื่น A เลย (สาหัสมาก) จากประวัติเก่าๆที่ผ่านมาแล้ว


โดยปกติแล้วการลงของคลื่น C จะอยู่ที่ประมาณ 161.8% ของคลื่น A มากกว่าที่จะเป็น 100%

แต่ผมคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี Q3 และ Q4 ของ America คงจะทยอยมีข่าวดีออกมาเรื่อยๆ
เพราะอเมริการเศรษฐกิจกำลังกระเตื้องขึ้น และเวลาก็ล่วงเลยมาถึงเดือน 8 แล้ว (ใกล้สิ้นปี 2010)
กำไรสะสมของบริษัทต่างๆในอเมริกาคงไม่เลวร้ายนัก  ดังนั้นในมองส่วนตัว คราวนี้คงดาวโจนส์
คงจะจบคลื่น C ใหญ่ลงมาที่ระดับ 100% ไม่ถึงระดับ 161.8% (ลงมาเท่ากับความยาวของคลื่น A)

ดังนั้นผมคาดการณ์ว่า จบคลื่น C ใหญ่ของดาวโจนส์แถวระดับ 9,000 จุดน่าจะเอาอยู่  แต่ว่าทุก
อย่างในตลาดหุ้นเป็นอะไรที่ต้องเผื่อใจไว้บ้างครับ หากว่าแนวรับ 9,000 จุดที่ผมประมาณการณ์
เอาไม่อยู่ก็ต้องมองลงมาที่ระดับ 161.8% หรือ 8,070 จุดไว้ด้วยนะครับ  แต่คงไม่หลุดแนวนี้แน่ๆ
เพราะว่าที่ระดับ 8,070 จุดนี้เคยเป็นแนวรับแนวต้านสำคัญของคราวก่อน (ดูเส้นสีเหลืองในกร๊าฟ)

ในมุมมองของผมเอง  ผมก็คาดว่า SET ไทยก็คงอยู่ในลักษณะเดียวกัน ก็คือลงมาที่ระดับ 100% ของ
คลื่น A มากกว่าจะที่ลงไปถึงระดับ 161.8% หรือ 261.8% เพราะว่าช่วงที่ผ่านมาเรายังแข็งแรงกว่า Dowjones มาก  ประกอบกับค่าเงินของเรายังแข็งอยู่อย่างเห็นได้ชัด

แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอสำหรับตลาดหุ้น
โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่รายย่อยอย่างเราๆท่านๆไม่ได้เป็นผู้กำหนดทิศทางตลาด

                                                                                                Vuthmail-Thailand
                                                                                                        14.08.53

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หุ้นเก็งกำไร ระยะสั้น 10-15 วัน

ผมมีหุ้นปันผลระดับ 7% มาให้เก็งกำไรเล่นๆนะครับ

ในระยะ 10-15 วัน เอากำไรสัก 5%-10% นะครับ เพราะอยุ่ที่ตีนเขา 1  กำลังจะเริ่มๆก่อตัวเป็นเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ (หรือฐานคลื่น 1-1 ตาม Elliot Wave) หากเล่นสั้นก็กำไร หาค่าขนมแล้วออกก็ได้  หรือ หากว่าจะลงทุนยาวๆ ก็ได้ครับผม โดยเอาหลัก 3 เขา 3 เหวของครูเฒ่าเกาะช้างเป็นแนวทางการลงทุน